World Cancer Day 2024 เติมเต็มทุกการรักษาเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง

World Cancer Day 2024 เติมเต็มทุกการรักษาเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง


ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งเพื่อคืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้ป่วยจึงไม่เคยหยุดยั้ง ซึ่งหากรู้เร็ว รักษาเร็ว ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสการหายและการรอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ชนิดเซลล์มะเร็ง อายุ และสุขภาพของผู้ป่วย เนื่องในวันมะเร็งโลก หรือ World Cancer Day 2024 ที่ตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ อยากให้ทุกคนเข้าใจรูปแบบการรักษาโรคมะเร็งและดูแลป้องกันตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคมะเร็งไปด้วยกัน

ปิดทุกช่องว่างสุขภาพ

เติมเต็มการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

#WorldCancerDay #CloseTheCareGap



World Cancer Day 2022 เติมเต็มทุกการรักษาเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง

พิชิตมะเร็ง

การรักษาโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพคือการรักษาที่เข้าถึงผู้ป่วยมะเร็งทุกคนได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ป่วยกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างยืนยาว ซึ่งปัจจุบันการรักษามะเร็งมีหลายวิธี ได้แก่

  1. การผ่าตัด (Surgery) เป็นวิธีรักษามะเร็งเฉพาะที่มายาวนาน ซึ่งมีการพัฒนาการผ่าตัดให้ไม่สูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียน้อยที่สุด ที่สำคัญปัจจุบันมีเทคโนโลยีผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กที่ผลการรักษาเทียบเท่าการผ่าตัดแบบแผลเปิด แต่แผลเล็ก เจ็บน้อย เสียเลือดระหว่างผ่าตัดลดลง ฟื้นตัวไว ลดการเกิดผลแทรกซ้อนและการติดเชื้อจากการผ่าตัด ผู้ป่วยมะเร็งจึงคลายความกังวลจากการผ่าตัดรักษาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ
  2. รังสีรักษา (Radiotherapy) หรือการฉายแสงเป็นการใช้รังสีกำลังสูงเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งในตำแหน่งที่กำหนด โดยแพทย์รังสีรักษาจะวางแผนการให้ปริมาณรังสีที่มีผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อยที่สุด การใช้รังสีรักษาสามารถรักษามะเร็งบางชนิดให้หายขาด บรรเทาอาการจากมะเร็ง อาทิ ลดความเจ็บปวด หยุดการไหลของเลือด เป็นต้น อีกทั้ทั้งยังรักษาภาวะเร่งด่วนที่เกิดจากโรคมะเร็งได้ ซึ่งปัจจุบันรังสีรักษาได้พัฒนาไปมากเพื่อให้รักษาได้ถูกต้องตรงตำแหน่งและลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย
  3. เคมีบำบัด (Chemotherapy) เป็นการรักษาโดยการให้ยา (สารเคมี) เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง โดยยาเคมีบำบัดจะเข้าไปขัดขวางการแบ่งเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็วกว่าเซลล์ปกติจึงอาจมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนอกจากยาเคมีบำบัดจะช่วยให้หายขาด ยังสามารถให้เคมีบำบัดก่อนผ่าตัดเพื่อลดขนาดก้อนมะเร็ง และใช้รักษาเสริมหลังผ่าตัดเพื่อลดโอกาสมะเร็งกลับมาเป็นซ้ำ
  4. ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy) เป็นการใช้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งหรือยุติการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งใช้ได้ในการรักษามะเร็งบางชนิดอย่างมะเร็งเต้านมที่อาจต้องกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศหญิงและมะเร็งต่อมลูกหมากที่กระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศชาย เป็นต้น
  5. การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) จะเข้าไปออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็งเพื่อยับยั้งการแบ่งตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเคมีบำบัด แต่ใช้ได้ดีกับเนื้อเยื่อมะเร็งที่มีเป้าจำเพาะต่อยาเท่านั้น จึงขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งเป็นสำคัญ
  6. การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ใช้หลักการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็งเพื่อต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้ใช้รักษามะเร็งได้หลายชนิด ขึ้นอยู่กับชนิด ลักษณะ และความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่ได้ผลดีในการรักษาและผลข้างเคียงต่ำ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง
  7. การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow/Stem Cell Transplantation) มีทั้งแบบการใช้เซลล์ต้นกำเนิดของตัวเองหรือของบุคคลที่มีความเข้ากันได้ของระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งระบบเลือดอื่น ๆ หรือมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์บางชนิด
  8. การรักษาแบบผสมผสาน (Combined Modality Therapy) เป็นการรักษาโรคมะเร็งโดยใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อเพิ่มโอกาสหายและรอดชีวิต แต่จะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับระยะ ความรุนแรงของโรค และสุขภาพของผู้ป่วย โดยแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งจะประเมินการรักษาอย่างละเอียดเพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

World Cancer Day 2022 เติมเต็มทุกการรักษาเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง

5 ทำ 5 ไม่ ป้องกันมะเร็ง

5 ทำ

  1. ออกกำลังกายเป็นนิจ
  2. ทำจิตแจ่มใส
  3. กินผักผลไม้
  4. อาหารหลากหลาย
  5. ตรวจร่างกายเป็นประจำ

5 ไม่

  1. ไม่สูบบุหรี่
  2. ไม่มีเซ็กส์มั่ว
  3. ไม่มัวเมาสุรา
  4. ไม่ตากแดดจ้า
  5. ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ


หัวใจสำคัญของการรักษาโรคมะเร็งคือการให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคหรือบรรเทาอาการให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ดังนั้นการพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งจึงมีหลากหลายแนวทางเพื่อประสิทธิภาพการรักษาและประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยมะเร็งเนื่องในวัน World Cancer Day 2024 อยากให้ทุกคนป้องกันมะเร็งด้วยการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลมะเร็งและหมั่นตรวจเช็กร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะมะเร็งหากรู้เร็ว รักษาเร็ว เพิ่มโอกาสหายได้

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านโรคมะเร็ง